วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ช่างเสริมสวย-Beautician

ช่างเสริมสวย-Beautician


นิยามอาชีพ
  ผู้ประกอบช่างเสริมสวย-Beautician ทำหน้าที่เสริมแต่งความงามให้กับผู้มาใช้บริการ ตรวจดูผิวพรรณของลูกค้า และให้คำแนะนำการเสริมสวยที่เหมาะสมกับลูกค้าให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการแต่งหน้า อาจตัด สระ แต่งรูปผมตามความต้องการของลูกค้าหรือผู้มาใช้บริการ และอาจเรียกชื่อตามลักษณะงานที่เชี่ยวชาญ

ลักษณะของงานที่ทำ
  ผู้ปฏิบัติงานช่างเสริมสวย-Beautician จะปฏิบัติหน้าที่ เสริมสวยครบวงจรตั้งแต่ การแต่งหน้า การแต่งผม การดูแลผิวพรรณ การนวด การทำเล็บ เพื่อส่งเสริมบุคลิกลักษณะของลูกค้าให้ดีขึ้น ดังต่อไปนี้
การดูแลผิวพรรณ โดยใช้น้ำยา ครีม หรือโคลนพิเศษ ทาและนวดเพื่อกระตุ้นการหมุนเวียนของโลหิตทำให้ผิวหน้าชุ่มชื่น ชะลอรอยย่น ขจัดริ้วรอย ด่างดำ บริเวณ หน้า คอ แขน ขา ตลอดจนร่างกาย ด้วยการนวดน้ำมัน อบไอน้ำ
การแต่งหน้า จัดแต่งรูปคิ้ว บนใบหน้า เสริมความงาม ใช้เครื่องสำอางตกแต่ง ให้เข้ากับลักษณะงานที่ลูกค้าต้องไปปรากฏตัว
การแต่งผม ดูแลตั้งแต่ให้คำแนะนำรูปทรงของผมที่เหมาะรับกับใบหน้า ตัด หวี ดัด ย้อมสีผม ระบายสีผม สระ นวดหนังศรีษะ อบไอน้ำ หรือหมัก และการเป่าผมให้แห้ง จากนั้นแต่งให้เข้ารูปทรงตามที่ลูกค้าต้องการ
การแต่งเล็บ ให้การบริการตัดแต่งทำเล็บมือ เล็บเท้าให้สะอาด อาจทาสีตามสมัยนิยม และเคลือบเล็บ ให้แข็งแรง
นอกจากนี้ยังต้องเตรียมจัดซื้อหา อุปกรณ์ เสริมความงามทุกชนิด ให้ได้คุณภาพมาตรฐาน

สภาพการจ้างงาน
  สำหรับผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นช่างเสริมสวยฝึกหัด หรือผู้ช่วยในร้านเสริมสวย อาจได้รับอัตราค่าตอบแทน เป็นเงินเดือน ประมาณเดือนละ 5,000 - 6,000 บาท
สำหรับช่างเสริมสวยที่มีความสามารถ และฝีมือดีเป็นที่พอใจของลูกค้า จะได้รับอัตราค่าตอบแทน เป็นรายหัว โดยแบ่งรายได้กับ เจ้าของกิจการ คือประมาณ 40 : 60 หรือแล้วแต่เงื่อนไขการตกลงว่าจ้างกับ ผู้ว่าจ้าง นอกจากนี้ช่างที่มีฝีมือเป็นที่พอใจของลูกค้าอาจได้รับเงินพิเศษ จากลูกค้า ตั้งแต่ 20 - 100 บาท จนถึงครึ่งหนึ่งของค่าเสริมสวย หรือบางครั้งอาจมากกว่าค่าเสริมสวยซึ่งขึ้นอยู่แต่ละประเภทของกลุ่มลูกค้า
ช่างเสริมสวย อาจต้องมาทำงานตั้งแต่เช้า เพื่อบริการแก่ลูกค้า และทำงานจนถึงเย็นและค่ำ จนกว่าจะปิดบริการ ซึ่งอาจมีชั่วโมงทำงานวันละ 9 -10 ชั่วโมง อาจต้องทำงานวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุด

สภาพการทำงาน
  ผู้ปฏิบัติงานช่างเสริมสวย-Beauticianอาจทำงานในสถานที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ การบริการงานให้ลูกค้าส่วนมากใช้เวลา 90% ยืนปฏิบัติงาน แต่ปัจจุบันการเสริมสวย บางอย่างผู้ให้บริการ สามารถนั่งปฏิบัติงานได้ การเปิดบริการส่วนมากจะไม่มีการปิดพักเที่ยง ดังนั้น ผู้ปฏิบัติงานอาจต้อง ผลัดเปลี่ยนกันไปรับประทานอาหารกลางวัน
อุปกรณ์ที่ใช้ที่ปฏิบัติงาน มีทั้งน้ำ เครื่องใช้ไฟฟ้า ยาย้อมผม สเปรย์ฉีดผมที่มีส่วนประกอบของสารเคมี อาจมีฝุ่นละอองจากเส้นผม ช่างเสริมสวยอาจต้องใช้ผ้าปิดจมูกขณะปฏิบัติงาน
ในกรณี ที่ผู้ประกอบอาชีพอิสระโดยใช้ที่พักอาศัยเป็นสถานที่ประกอบกิจการ อาจเปิดชั่วโมงบริการตามปริมาณ และความพอใจของผู้ให้บริการ และผู้มาใช้บริการ ซึ่งเฉลี่ยการทำงานของช่างเสริมสวย 1 คนอาจบริการให้ลูกค้าได้ 10 - 12 คน ซึ่งแล้วแต่การเข้ามาใช้บริการการเสริมสวยแบบใด ใช้เวลาในการเสริมสวยเท่าใด
ช่างเสริมสวยอาจถูกว่าจ้างให้ไปทำงานนอกสถานที่ เช่นเสริมสวยให้เจ้าสาว หรือสถานที่ถ่ายทำ ภาพยนตร์ เป็นต้น

คุณสมบัติของผู้ประกอบอาชีพ
  ผู้ที่ประกอบช่างเสริมสวย-Beautician ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา แต่ต้องมีฝีมือ และมีใจรักอาชีพบริการเสริม ความงามให้กับลูกค้า และควรมี คุณสมบัติขั้นต้นและการเตรียมตัวดังต่อไปนี้
1. เข้าอบรมหลักสูตรเสริมสวยระยะสั้นจากโรงเรียนเสริมสวยที่มีชื่อเสียง 6 เดือน
2. ควรเข้ารับการฝึกหาประสบการณ์ โดยการเป็นพนักงานหรือลูกจ้างในร้านเสริมสวยประมาณ 6 เดือน -1 ปี
3. เป็นคนอ่อนน้อม มีมารยาท รู้จักกาลเทศะ และรู้จักเอาใจผู้ใช้บริการ
4. เป็นคนขยัน มีความอดทน และมีความภูมิใจในอาชีพ
ผู้ที่จะประกอบช่างเสริมสวย-Beautician ควรเตรียมความพร้อมดังต่อไปนี้คือ : สามารถเข้ารับการอบรมจากสถาบันเสริมสวยที่มีชื่อเสียง ซึ่งนักเรียนไม่จำกัดวุฒิการศึกษา ค่าเรียนหลักสูตรเสริมสวย ระยะเวลา 6 เดือน ประมาณ 12,000 บาท ซึ่งจะสอนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เช่น ม้วนผม ตัดผม ตกแต่งทรงผม รักษาเส้นผม นวดหน้า เมื่อสำเร็จแล้วจะได้รับประกาศนียบัตร และสามารถนำมาประกอบอาชีพในอาชีพ ช่างเสริมสวยได้ เช่น ช่างแต่งผม ช่างตัดผม และช่างแต่งหน้าได้

โอกาสในการมีงานทำ
  ตลาดแรงงานสำหรับผู้ที่สนใจประกอบช่างเสริมสวย-Beautician ยังเปิดกว้าง ร้านเสริมสวยแบ่งออกเป็นหลายประเภท และหลายระดับ เพื่อบริการกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่มตามสภาพเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มวัยรุ่น กลุ่มวัยทำงาน กลุ่มผู้บริหารระดับสูง และกลุ่มแม่บ้าน นอกจากนี้ วัยรุ่นทั้งหญิงชายหันมาให้ความสนใจ ในเรื่องการตกแต่งแบบผมกันเป็นจำนวนมากขึ้น และเข้ารับการดัดแปลงกันเป็นประจำเพื่อให้ก้าวทันตามแฟชั่นจากต่างประเทศ
ทัศนคติของผู้ใช้บริการด้านเสริมสวยในปัจจุบันค่อนข้างเปลี่ยนไปคือเข้ารับการบริการเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ และนอกจากใช้บริการตกแต่งความสวยงามของทรงผม ยังมารับบริการเสริมความงามต่างๆ ที่สถานเสริมสวยบริการไว้ครบวงจร เช่น นวดหน้า ขัดผิวพรรณด้วยสมุนไพร ด้วยกลิ่นหอม อาบน้ำนม อบไอน้ำ นวดตัว แต่งหน้า ให้กับเจ้าบ่าวเจ้าสาว ผู้รับปริญญา นอกจากนี้ ช่างผมสตรีสามารถตัดผม ให้สุภาพบุรุษได้ด้วย ในวัยรุ่นชายก็เข้ารับการตัดผมดูแลผมจากร้านเสริมสวยที่วัยรุ่นหญิงใช้บริการเช่นกัน ในทำนองเดียวกัน ช่างผมบุรุษได้ทำงานเป็นช่างตัดแต่งผมให้แก่ผู้ใช้บริการที่เป็นสตรีกันมากขึ้น และอยู่ในความนิยม ดังนั้น บุรุษก็สามารถทำงานเป็นช่างตัดแต่งผมสตรีได้
ปัจจุบันร้านเสริมสวยครบวงจรได้ขยายการเปิดในทำเลธุรกิจ เช่น ในอาคารสำนักงานให้เช่า และที่อยู่อาศัยคอนโดมีเนียม บริเวณโรงแรม บริเวณซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่ออำนวยความสะดวกต่อผู้ที่ทำธุรกิจหรือพนักงานขององค์กรเหล่านั้น ทำให้ความต้องการทางด้านปริมาณของช่างเสริมสวย ขยายตัวมากขึ้น
โดยทั่วไปจำนวนช่างเสริมสวยที่ต้องการในร้านเสริมสวยขนาดกลาง อาจต้องการประมาณ 5 คน ขึ้นไป ส่วนในร้านขนาดใหญ่ อาจต้องการช่างมากกว่า 10 คนขึ้นไป และร้านเสริมสวยต่างต้องหา ช่างเสริมสวยมาหมุนเวียนทดแทน ผู้ออกไปทำงานให้แก่ร้านเสริมสวยแห่งอื่นหรือไปเปิดกิจการของตนเองตลอดเวลา แต่บางรายก็อาจหมุนเวียนกลับมาอีก เนื่องจากอาชีพช่างเสริมสวยเป็นอาชีพที่หางานทำได้ไม่ ยากนัก และถ้าหากมีฝีมือเป็นที่นิยมของลูกค้า ก็จะถูกชักชวนจากเจ้าของกิจการและได้รับค่าจ้างสูง แต่ช่างเสริมสวยต้องหมั่นหาความรู้เพิ่มเติมและติดตามความเปลี่ยนแปลงของแฟชั่นอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้สามารถบริการได้ถูกใจลูกค้า
นอกจากนี้ในโรงเรียนหรือสถาบันสอนเสริมสวยที่มีชื่อเสียง นักเรียนเสริมสวยที่เรียนสำเร็จแล้ว จะได้รับการจองตัวจากร้านเสริมสวย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไปเป็นพนักงานหรือช่างประจำร้าน
ในกรณีที่ต้องการเปิดกิจการเสริมสวยด้วยตนเอง อาจใช้บ้านเป็นร้านเสริมสวย ซึ่งใช้งบประมาณ ตั้งแต่ 5 หมื่นบาทขึ้นไป ถ้าร้านเสริมสวยขนาดเล็กถึงกลางที่มีช่างเสริมสวยหลายคนอาจใช้งบประมาณในการ จัดร้านประมาณ 1 - 2 แสนบาท และสามารถได้เงินคุ้มทุนเร็วซึ่งขึ้นอยู่กับความขยัน การบริการ และฝีมือของช่างเสริมสวย

โอกาสความก้าวหน้าในอาชีพ
  ผู้ประกอบช่างเสริมสวย-Beauticianถ้ามีฝีมือ และพัฒนาฝีมือของตนเองตลอดเวลา อาจพัฒนาตนเองเป็น ช่างเสริมสวยประจำสตูดิโอ กองถ่ายภาพยนตร์ หรืองานแสดงแบบเสื้อ ซึ่งจะมีค่าตอบแทนค่อนข้างสูง
ช่างเสริมสวยผู้มีความสามารถ ขยัน อุปนิสัยดี จะเป็นเจ้าของกิจการของตนเองได้ในเวลาอันรวดเร็ว โดยการเลือกหาทำเลในการเปิดร้านที่เหมาะสม หรืออาจเปิดร้านในหมู่บ้านและปฏิบัติงานเพียงคนเดียวก็ได้หรือเปิดโรงเรียนเสริมสวยของตนเอง ซึ่งมีช่างเสริมสวยที่ประสบความสำเร็จในช่างเสริมสวย-Beautician เป็นจำนวนมาก
ช่างเสริมสวยไม่ควรหยุดนิ่ง ควรหาเทคนิคใหม่เกี่ยวกับการเสริมสวยที่ทันสมัย มาบริการลูกค้า อย่างสม่ำเสมอ เพื่อจูงใจลูกค้าให้มาใช้บริการเป็นการประจำ

อาชีพที่เกี่ยวเนื่อง
  ผู้ประกอบช่างเสริมสวย-Beauticianถ้ามีฝีมือ และพัฒนาฝีมือของตนเองตลอดเวลา อาจพัฒนาตนเองเป็น ช่างเสริมสวยประจำสตูดิโอ กองถ่ายภาพยนตร์ หรืองานแสดงแบบเสื้อ ซึ่งจะมีค่าตอบแทนค่อนข้างสูง
ช่างเสริมสวยผู้มีความสามารถ ขยัน อุปนิสัยดี จะเป็นเจ้าของกิจการของตนเองได้ในเวลาอันรวดเร็ว โดยการเลือกหาทำเลในการเปิดร้านที่เหมาะสม หรืออาจเปิดร้านในหมู่บ้านและปฏิบัติงานเพียงคนเดียวก็ได้หรือเปิดโรงเรียนเสริมสวยของตนเอง ซึ่งมีช่างเสริมสวยที่ประสบความสำเร็จในช่างเสริมสวย-Beautician เป็นจำนวนมาก
ช่างเสริมสวยไม่ควรหยุดนิ่ง ควรหาเทคนิคใหม่เกี่ยวกับการเสริมสวยที่ทันสมัย มาบริการลูกค้า อย่างสม่ำเสมอ เพื่อจูงใจลูกค้าให้มาใช้บริการเป็นการประจำ

แหล่งข้อมูลอื่น ๆ
  โรงเรียนและสถาบันเสริมสวยที่มีชื่อเสียงและกระทรวงศึกษาธิการรับรองวิทยาฐานะ ร้านเสริมสวยต่างๆ ทั่วประเทศ เช่น โรงเรียนเสริมสวยเกสรี การจัดประเภทมาตรฐานอาชีพ (ประเทศไทย)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น